ความน่าเชื่อถือของแบบทดสอบ IQ ระดับนานาชาติ
ในการศึกษาเรื่องนี้ ได้สุ่มเลือกกลุ่มผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน 3 กลุ่ม จำนวน 66,032 รายการ ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่แตกต่างกัน (2020, 2021 และ 2022) จากฐานข้อมูลการทดสอบ IQ ระดับนานาชาติ เพื่อให้แต่ละกลุ่มเป็นตัวแทนของประชากรโลก (ในสมมติฐานที่ว่าจำนวนประชากรโลกเท่ากับ 80,000 คน) และประเมินประสิทธิผลของแบบทดสอบและอัลกอริทึมการคำนวณคะแนน IQ แต่ละกลุ่มจะมีสัดส่วนของผลลัพธ์จากแต่ละประเทศทั่วโลกตามสัดส่วนของประชากรโลก โดยอิงตามเปอร์เซ็นต์ประชากรโลกที่แต่ละประเทศเป็นตัวแทนในปี 2023
ตัวอย่างเช่น ในปี 2023 ประเทศจีนคิดเป็นประมาณ 18.89% ของประชากรโลก ดังนั้นจึงมีการรวมผลลัพธ์ของผู้ใช้งานชาวจีนจำนวน 15,112 ราย (18.89% ของ 80,000) ในแต่ละกลุ่ม สำหรับแต่ละปีที่ทำการศึกษา
มีการกรองผลลัพธ์ก่อนการเลือก เพื่อเลือกเฉพาะผลลัพธ์ที่แท้จริง (ไม่มีผลลัพธ์ซ้ำหรือมาจากบอท) โดยใช้ตัวกรองเดียวกันสำหรับทุกประเทศโดยไม่มีข้อยกเว้น และตัวกรองเดียวกันนี้ถูกใช้ในการจัดทำ
การจัดอันดับ IQ ตามประเทศ ในแต่ละปีด้วย
ข้อมูลที่มีเพียงพอสำหรับเป็นตัวแทน 82.54% ของประชากรโลกตลอด 3 ปีที่ศึกษาในแต่ละกลุ่ม (66,032 / 80,000)
สำหรับประเทศที่เหลืออีก 17.46% ไม่มีข้อมูลเพียงพอที่จะรวมอย่างเหมาะสมในงานวิจัยนี้โดยไม่ต้องลดขนาดตัวแทนรวม (80,000) ลงอย่างมากเพื่อปรับเกณฑ์ขั้นต่ำของจำนวนผู้เข้าร่วมในแต่ละประเทศให้ต่ำลง จึงจำเป็นต้องละเว้นประเทศเหล่านั้น แต่ก็ไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อภาพรวมของผลลัพธ์โดยรวมมากนัก
ผลลัพธ์โดยรวมของ 3 ปี เมื่อปัดให้เป็นจำนวนเต็ม แสดงค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (SD) ประมาณ 15 และค่าเฉลี่ย IQ ประมาณ 100
ข้อมูลนี้บ่งชี้ในเชิงสถิติว่า
แบบทดสอบ IQ ระดับนานาชาติ อาจให้คะแนน IQ ที่สอดคล้องกับความเป็นจริงของแต่ละบุคคลได้ (อย่างน้อยใกล้เคียงไม่กี่คะแนน) โดยใช้วิธี
Raven’s Progressive Matrices อย่างไรก็ตาม ควรตีความผลลัพธ์นี้เพื่อใช้อ้างอิงเท่านั้น และไม่อาจทดแทนการปรึกษาจิตวิทยาได้